“ความสัมพันธ์ที่ดี” เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรปรารถนา แต่การรักษาความสัมพันธ์อันดีโดยการหลีกเลี่ยงการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมา กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ค่อยๆกัดเซาะการเติบโตในระยะยาว
หลายองค์กรมักกังวลว่าการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมาจะทำลายความสัมพันธ์อันดีกับพนักงาน ลูกค้า หรือคู่ค้า จึงเลือกที่จะเก็บความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาไว้กับตัวเอง หรือใช้วิธีการที่อ้อมค้อมในการสื่อสาร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การหลีกเลี่ยงการพูดความจริงกลับส่งผลเสียมากกว่าผลดีหลายองค์กรมักกังวลว่าการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมาจะทำลายความสัมพันธ์อันดีกับพนักงาน ลูกค้า หรือคู่ค้า จึงเลือกที่จะเก็บความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาไว้กับตัวเอง หรือใช้วิธีการที่อ้อมค้อมในการสื่อสาร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การหลีกเลี่ยงการพูดความจริงกลับส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ปัญหาของการเป็นคนใจดี
ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของการทำงานเป็นทีม แต่เรามักหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับมัน ด้วยความปรารถนาที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น การหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา หรือการให้คำติชมที่เป็นประโยชน์ เพื่อรักษาความสงบสุขภายในทีม อาจนำไปสู่การสร้าง ‘บรรยากาศที่ปรองดองแต่ไร้ประสิทธิภาพ’ การเลือกที่จะ ‘ใจดี’ แทนที่จะ ‘ตรงไปตรงมา’ ทำให้เราพลาดโอกาสในการพัฒนาและเติบโตร่วมกัน ความใจดีที่มากเกินไปอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาองค์กรในระยะยาวได้
เส้นทางสู่การเป็นคนดี
หลายครั้ง การกระทำที่ดีของเราอาจถูกผลักดันด้วยความต้องการได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน การกระทำที่มาจากแรงจูงใจนั้นเปรียบเสมือนการหลงเข้าไปใน ‘กับดักแห่งความดี’ การตระหนักถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของตนเอง จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นบวกได้การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และส่งเสริมบรรยากาศที่เอื้อต่อการเติบโต จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน
ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ในการสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จ การพัฒนาความไว้วางใจภายในทีมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อสมาชิกในทีมไว้วางใจกัน ก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยอมรับความผิดพลาด
การกล้าเปิดเผยความผิดพลาด เช่น การพลาดกำหนดส่งงาน หรือการทำให้ลูกค้าไม่พอใจ เป็นสัญญาณที่ดี เพราะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่และความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทีมงานสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดเผยและซื่อสัตย์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การเคารพซึ่งกันและกันเริ่มต้นจากการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา
การให้ข้อเสนอแนะแก่กันอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาบุคลากรและองค์กร การเลือกที่จะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานโดยตรงก่อนที่จะแจ้งผู้บังคับบัญชา แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่น แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดเผยและโปร่งใสมากขึ้น
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
การเปิดพื้นที่ให้ทีมได้ ‘แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา’ นั้นเปรียบเสมือนการมอบของขวัญชิ้นสำคัญ เพราะเป็นการสร้างสรรค์บรรยากาศที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่หลากหลาย เมื่อทุกคนรู้สึกว่าความคิดของตนได้รับการเคารพและพิจารณา ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนที่สร้างสรรค์และนำไปสู่แนวคิดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
การเปลี่ยนผ่านจากวัฒนธรรมแห่งความใจดีสู่ความเมตตา นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในองค์กร พนักงานรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็นและรับผิดชอบต่องานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และการแก้ปัญหาที่รวดเร็วขึ้น เมื่อทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมและมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือความผูกพันที่แข็งแกร่งขึ้น และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร